วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ประเพณีแต่งงานของประเทศมาเลเซีย



ประเพณีแต่งงานของประเทศมาเลเซีย


ประเทศมาเลเซียมีพิธีแต่งงานแบบอิสลาม เรียกว่า นิกะห์ ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อฝ่ายชายและฝ่ายหญิงตกลงปลงใจจะแต่งงานกัน จากนั้นฝ่ายชายจะให้ผู้ใหญ่ไปทำการสู่ขอ โดยมีการตกลงค่า มะฮัรฺ หรือ สินสอดทองหมั้น และกำหนดวันแต่งงาน อิสลาม ไม่เชื่อในเรื่องโชคชะตา จึงไม่นิยมดูฤกษ์ยามก่อนแต่งงาน และมีข้อห้ามไม่ให้เชื่อเรื่องดวงดาวและโชคชะตาต่าง อีกด้วย ดังนั้น ชาวมุสลิมจึงไม่มีฤกษ์วันแต่งงาน นอกจากความสะดวกทั้งสองฝ่ายเท่านั้น

ประเพณีแต่งงานของประเทศสิงคโปร์



ประเพณีแต่งงานของประเทศสิงคโปร์

        ประเทศสิงคโปร์มีการแต่งงานตามประเพณีแบบจีน เพราะมีบรรพบุรุษเชื้อสายจีน ทำให้ขนมธรรมเนียมการแต่งงานแบบจีนยังคงมีให้เห็นอยู่สม่ำเสมอ แม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนไปบ้างตามยุคสมัยเพื่อให้ง่ายขึ้น และด้วยเหตุผลที่ปัจจุบันมีการผสมผสานการแต่งงานเข้ากับหลายวัฒนธรรมทำให้เกิดความสับสน  แต่อย่างไรก็ตามก็ยังคงมีลักษณะของความเป็นจีนให้เห็นอย่างชัดเจน  การแต่งงานตามขนบธรรมเนียมจีนดูเหมือนจะง่าย แต่เมื่อคู่บ่าวสาวคู่ใดที่จะต้องจัดงานตามรูปแบบดังกล่าวก็จะรู้สึกปวดหัวและมึนงงกับความซับซ้อนและสิ่งของที่ตระเตรียมเป็นอย่างมาก

สิ่งที่เจ้าบ่าวต้องเตรียม 

ประเพณีงานแต่งของประเทศลาว



ประเพณีงานแต่งของประเทศลาว

      การจัดงานแต่งงาน ก็จะมีทั้งพิธีหมั้น ซึ่งก็ต้องดูวันเวลาตกฟากของทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวตามปฏิทินลาว ซึ่งในวันหมั้น เจ้าบ่าวก็จะนำขันหมากไปยังบ้านเจ้าสาวเพื่อสู่ขอ ในขันหมากก็จะประกอบไปด้วย ทองคำ เงินรูปพรรณ เงินตราสกุลต่างๆ และสิ่งของอันมีค่าตามที่พ่อแม่เจ้าสาวเรียกร้อง และวันนั้นก็จะมีพ่อ แม่ ญาติสนิทและเพื่อนฝูงของทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวมาพร้อมหน้าเพื่อเป็นสักขีพยาน ในการเตรียมงานสำหรับพิธีแต่ง ก็จะเริ่มต้นด้วยคนเฒ่าคนแก่ เตรียมธูป เทียน พานพุ่มดอกไม้ทำจากใบตองเป็นชุดบายศรี ส่วนคนหนุ่มก็ตระเตรียมสถานที่ สาว ๆ ก็จะเข้าครัวดูแลเรื่องอาหารการกิน บรรยากาศเหมือนงานบุญที่ล้วนต่างก็มาช่วยกัน อาหารก็จะประกอบไปด้วยอาทิ ลาบ คำพ้องเสียงกับ ลาภ ซึ่งหมายถึงความโชคดีมีโชคลาภนั่นเอง ปาเต้ตับหมูบดทานกับขนมปังสูตรของคนเก่าแก่ ฯลฯ 

ประเพณีการบวชของประเทศกัมพูชา


ประเพณีการบวชของประเทศกัมพูชา


    กิจกรรมการการบวชนาคถูกจัดขึ้นเป็นแบบชาวบ้านในวิถีแบบท้องถิ่นจริงๆ  นาคที่บวชจะนั่งบนแคร่ที่ทำจากไม้ไผ่ใช้คนหามหลายๆคนมีกลดบังแดดประกอบกับชาวบ้านร่วมขบวนแห่มากมายทั้งลูกเด็กเล็กแดงหนุ่มสาวเรื่อยไปจนถึงคนแก่  คละคลุ้งไปด้วยฝุ่นตลบอบอวนทั่วทั้งขบวนแห่รอบโบสถ์ซึ่งอยู่ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม   ระหว่างที่คนหามนาคที่นั่งบนแคร่จะมีการยกและโยกตลอดจนเสียงโห่ร้องวงมโหรีบรรเลงอย่างสนุกสนาน  นาคที่นั่งบนแคร่ต้องนิ่งระวังไม่ให้ตกจากแคร่เด็ดขาดโดยจะแห่รอบโบสถ์สามรอบและมีการโปรยเงินจากขันที่นาคถือจะรอบโบสถ์สามรอบ  ภายในภาพนอกจากขบวนแห่นาคแล้วยังเห็นภาพโบสถ์หลังเก่าที่สร้างแบบผสมผสานระหว่างรูปแบบตะวันตก และช่างชาวบ้านว่ากันว่า เป็นช่าง  ชาวขอม  ชาวแกว  ชาวญวน ซึ่งรูปแบบโบสถ์ที่เห็นในภาพเป็นที่แปลกตามากทางสถาปัตยกรรมไม่ว่าจะเป็นประตูรูป หน้าต่างทึบและ โปร่งรูปวงโค้ง  มีเสาสี่เหลี่ยมภายในค้ำหลังคาถึง 6 ต้น 

ประเพณีงานศพของประเทศอินโดนีเซีย



ประเพณีงานศพของประเทศอินโดนีเซีย
           

      มีประเพณีการจัดงานศพเป็นเวลาหลายวันผู้ร่วมงานจะแสดงความรื่นเริง สนุกต่อการละเล่น การแสดงที่มีเสียงดนตรีและเพลงหรือการแสดงที่เปิดเผยในเรื่องเพศ ใช้คำหยาบคายในการดื่มเหล้า หรืออาการไม่สำรวมโศกเศร้าร้องไห้ของญาติผู้ตาย ซึ่งอย่างในงานศพของชาวบาหลีและชวานั้น มีความ

ข้อห้าม,ข้อควรปฏิบัติของประเทศเกาหลีประเทศเกาหลี

ข้อห้าม,ข้อควรปฏิบัติของประเทศเกาหลีประเทศเกาหลี

- การทักทายและการกล่าวคำขอบคุณเป็นเรื่องที่คนเกาหลีให้ความสำคัญมาก 
เวลากล่าวคำทักทายและขอบคุณคนเกาหลีมักก้มหัวคำนับเสมอ การโค้งหัวต่ำระดับไหนก็ขึ้นอยู่กับความอาวุโสของอีกฝ่าย 
 
- ที่ประเทศเกาหลีจะไม่ค่อยเห็นว่ามีสุนัขเดินเพ่นพ่านตามถนนเลย เพราะ ค่าเลี้ยงดูสุนัขที่เกาหลีแพงมากๆ
 และถ้าจูงสุนัขไปเดินเล่นตามถนนที่เกาหลี ถ้าสุนัขอึออกมา เราต้องเก็บทำความสะอาดเอง ไม่งั้นต้องเสียค่าปรับ

- ตามร้านมินิมาร์ทที่เกาหลี เวลา ไปซื้อของเขาจะไม่ใส่ถุงให้ ทั้งนี้เพื่อช่วยรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก
 หากต้องการถุง เขาจะคิดเงินเพิ่ม 100 วอน หรือประมาณ 4 บาทไทย
 

ที่มาของวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน



ที่มาของเรื่องขุนช้างขุนแผน 

       
  สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่า  เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน  มีเค้าว่าเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นระหว่าง  พ.ศ. ๒๐๓๔-๒๐๗๒ ในรัชสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ แห่งกรุงศรีอยุธยาและกลายเป็นนิทานเล่าสืบต่อกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปีก่อนที่จะนำมาแต่งเป็นกลอนเสภาในภายหลัง


ข้อห้ามข้อควรปฏิบัติของประเทศเวียดนาม



ข้อห้ามข้อควรปฏิบัติของประเทศเวียดนาม
 การไปประเทศต่างๆเราควารต้องรู้เกี่ยวกับมารยาทวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆก่อนวันนี้ผมจะมาบอกถึงข้อห้ามและข้อควรปฏิบัติของประเทศเวียดนาม

1. เวียดนามไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพอาคารที่ทำการต่างๆ ของรัฐ
 
2. คดียาเสพติดการฉ้อโกงหน่วยงานของรัฐมีโทษประหารชีวิต

คำทักทาย,คำที่ใช้ในชีวิตประจำวันของประเทศเวียดนาม

คำทักทาย,คำที่ใช้ในชีวิตประจำวันของประเทศเวียดนาม



สวัสดี (ใช้ได้ทุกเวลา)             พูดว่า      ซิน จ่าว (Xin Chao)
สวัสดีตอนเช้า                       พูดว่า     ฉ่าวโบ่ยซ้าง(Chào bui sáng)
สวัสดีตอนกลางวัน                 พูดว่า     ฉ่าวโบ่ยทรูย (Chào bui trưa)
สวัสดีตอนเย็น                       พูดว่า     ฉ่าวโบ่ยโต๊ย (Chào bui ti)
สวัสดี สำหรับชายสูงอายุ         พูดว่า      เจา อง (Chao Ong)
สวัสดี ชายหนุ่ม                     พูดว่า      เจา แองห์ (Chao Anh)
สวัสดี ชายอายุมากกว่า           พูดว่า      เจา บั๊ก (Chao Bac)
สวัสดี ชายอายุน้อยกว่าเจา       พูดว่า      แอม (Chao Em)
สวัสดี สำหรับหญิงสูงอายุ        พูดว่า       เจา บา (Chao Ba)
สวัสดี หญิงสาว                     พูดว่า      เจา โก  (Chao Co)

คำทักทาย คำที่ใช้ในชีวิตประจำวันของภาษาเกาหลี



 คำทักทาย คำที่ใช้ในชีวิตประจำวันของภาษาเกาหลี
(อาเซียน+3) 
สวัสดี   [อัน นยอง ฮา เซ โย]  안녕하세요
ยินดีที่ได้พบกัน  [มัน นา ซอ พัน กา วอ โย] 만나서  반가워요.
ผมเป็นคนไทยครับ [ชอ นึน แท กุก ซา รา มี เอ โย] 저는 태국 사람이에요.
ลาก่อน ครับ  [อัน นยอง ฮี คเย เซ โย] 안녕히  계세요.
วันหลังไปเที่ยวด้วยกันอีกนะ  [ทา อือ เม โต นล รอ กา โย] 디음에 또러 가요.
ขอโทษ [มีอันฮัมนีดา] 미안합니다
ยินดีที่ได้รู้จัก   [พันกับซึมนีดา] 반갑습니다
วันนี้สนุกมาก   [โอนึล ชึลกอว๊อสซึมนีดา] 오늘 즐거웠습니다
แล้วพบกันใหม่ [โต มันนับชีดา]  만납시다
ไม่เป็นไร [แคว็นชั่นซึมนีดา] 괜찮습니다