วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ประเพณีงานศพของประเทศอินโดนีเซีย



ประเพณีงานศพของประเทศอินโดนีเซีย
           

      มีประเพณีการจัดงานศพเป็นเวลาหลายวันผู้ร่วมงานจะแสดงความรื่นเริง สนุกต่อการละเล่น การแสดงที่มีเสียงดนตรีและเพลงหรือการแสดงที่เปิดเผยในเรื่องเพศ ใช้คำหยาบคายในการดื่มเหล้า หรืออาการไม่สำรวมโศกเศร้าร้องไห้ของญาติผู้ตาย ซึ่งอย่างในงานศพของชาวบาหลีและชวานั้น มีความ
เชื่อในเรื่องงานศพต้องแสดงอาการดีใจ มิฉะนั้นวิญญาณจะหาหลุมศพไม่พบ(หากเป็นบ้านเราอาจจะรับไม่ได้หากในงานศพต้องแสดงท่าทีที่รื่นเริง) หรือการใช้คำหยาบคายในการละเล่นหรือมหรสพ ก็มักจะเป็นไปตามความเชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์ เพราะในงานศพบรรพบุรุษจะต้องการให้เกิดการสืบทอดเผ่าพันธุ์ด้วยเสียงฆ้องหรือกลองที่ตีในพิธีศพ เป็นเสียงที่แสดงสัญลักษณ์การเปลี่ยนผ่านจากชีวิตไปสู่ความตาย จึงต้องตีให้ดังเพื่อให้การสื่อสารระหว่างมนุษย์กับผีง่ายขึ้น ซึ่งเราจะพบเสมอว่า การตี การเคาะเสียงดัง หรือการจุดพลุประทัด ก็เพื่อสื่อสารกับผีหรือเทพ ในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน คลุมเครือ หรือช่วงเวลาที่เปลี่ยนผ่าน ที่มีความลึกลับแฝงอยู่ เช่น การตีกลองมโหระทึกในพิธีศพ
            นอกจากนี้ชาวอินโดนีเซียเองเมื่อมีคนในครอบครัวตายก็มักจะเก็บศพไว้ในบ้านเพื่อทำพิธีกรรมคล้ายๆ กับบ้านเรา ที่เก็บศพไว้ในบ้านบ้างหรือวัดบ้าง แต่แตกต่างกันตรงที่มีการเก็บไว้ร้อยวันแล้วค่อยเผา จึงมักมีประเด็นคำถามเสมอเกี่ยวกับเรื่องกลิ่นเหม็นของศพ ที่แม้ผู้ที่อยู่วัฒนธรรมตะวันตกที่มีสภาพแวดล้อมในภูมิอากาศที่หนาวเย็นกว่ายังนิยมจัดการเรื่องศพให้เสร็จอย่างรวดเร็วที่สุดภายในหนึ่งวัน แต่ในอุษาคเนย์จะพบการเก็บศพไว้ในบ้าน รวมญาติมิตรสหายเป็นเวลานานหลายวัน ย่อมจะต้องมีกลิ่นเหม็นเน่าของศพจนไม่น่าจะทนอยู่ได้ แต่เหตุใดผู้คนแถบนี้จึงไม่สนใจเรื่องกลิ่นหรือความเน่าเหม็น
 


 เปรียบเทียบประเพณีงานศพของประเทศไทยกับอินโดนีเซีย
            .งานศพในประเทศไทยผู้ร่วมงานจะร่วมแสดงความเสียใจแก่การจากไปของศพ แต่งตัวและพูดจาให้เกียรติแก่งานศพของผู้ตายและญาติของผู้ตาย แต่ประเทศอินโดนีเซียแตกต่างจากประเทศไทยคือ ผู้ร่วมงานจะแสดงความรื่นเริง สนุกต่อการละเล่น การแสดงที่มีเสียงดนตรีและเพลงหรือการแสดงที่เปิดเผยในเรื่องเพศ ใช้คำหยาบคายในการดื่มเหล้า หรืออาการไม่สำรวมโศกเศร้าร้องไห้ของญาติผู้ตาย
             .เมื่อมีผู้เสียชีวิตประเทศไทยมีการจัดพิธีศพ ๓ วัน ๗ วัน จัดงานพิธีสวดที่บ้านบ้างหรือที่วัดบ้าง แต่ประเทศอินโดนีเซียนั้นจะมีความคล้ายแค่การเอาศพไว้บ้าน แต่แตกต่างกันตรงที่มีการเก็บศพไว้ถึง ๑๐๐ วัน
            .ประเทศไทยเมื่อมีการจัดงานพิธีสวดศพเสร็จไม่ว่าจะเป็น ๓ วัน หรือ ๗ วันก็มีการนำไปวัดและทำการเผา ประเทศอินโดนีเซียก็มีการเผาศพเช่นกันเมื่อเสร็จพิธีตรมความเชื่อ
            .ในงานศพของประเทศไทยนั้นจะมีวงปี่พาทย์ที่ให้ความรู้สึกโศกเศร้าโหยหวน แต่ประเทศอินโดนีเซียจะมีการตีกลองมโหระทึกในพิธีศพให้ความรู้สึกครึกโครมและลึกลับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น