ประเพณีแต่งงานของประเทศมาเลเซีย
ประเทศมาเลเซียมีพิธีแต่งงานแบบอิสลาม เรียกว่า นิกะห์ ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อฝ่ายชายและฝ่ายหญิงตกลงปลงใจจะแต่งงานกัน จากนั้นฝ่ายชายจะให้ผู้ใหญ่ไปทำการสู่ขอ โดยมีการตกลงค่า มะฮัรฺ หรือ สินสอดทองหมั้น และกำหนดวันแต่งงาน อิสลาม ไม่เชื่อในเรื่องโชคชะตา จึงไม่นิยมดูฤกษ์ยามก่อนแต่งงาน และมีข้อห้ามไม่ให้เชื่อเรื่องดวงดาวและโชคชะตาต่าง ๆ อีกด้วย ดังนั้น ชาวมุสลิมจึงไม่มีฤกษ์วันแต่งงาน นอกจากความสะดวกทั้งสองฝ่ายเท่านั้น
พิธีแต่งงานแบบอิสลาม มีกฎอยู่ ดังนี้
๑.
ฝ่ายชายจะต้องจัดหาสินสอดทองหมั้น (มะฮัร) ให้กับฝ่ายหญิง และเมื่อแต่งงานกันแล้วสินสอดจะตกเป็นของฝ่ายหญิงเพียงคนเดียว
๒. จะต้องมีชายมุสลิมที่มีคุณธรรม มาเป็นพยานในการแต่งงานอย่างน้อย 2 คน
๓. จะต้องมี วะลีย์ หรือ ผู้ปกครองของฝ่ายหญิงเป็นผู้ทำหน้าที่แต่งงานให้ ซึ่งหากพ่อแม่ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ ฝ่ายหญิงจะต้องตั้งบุคคลมาเป็นวะลีย์แทน
๔. วะลีย์ของฝ่ายหญิงต้องเป็นผู้เสนอคำขอแต่งงาน (อีญาบ) โดยมีเจ้าบ่าวขานรับ (กอบูล)
จากนั้นจึงมีการเลี้ยงฉลองแต่งงานกันขึ้น เรียกว่า วะลีมะฮฺ โดยที่มีข้อแม้ว่างานเลี้ยงจะต้องไม่ฟุ่มเฟือย เนื่องจากความเชื่อของศาสนาอิสลามนั้น อนุญาตให้มีการฉลองงานแต่งงานได้ แต่จะต้องอยู่ในความพอดี เนื่องจากเป็นความสิ้นเปลือง
การแต่งกายแบบอิสลาม
ฝ่ายหญิงหากเข้านับถือศาสนาอิสลามแล้ว จะต้องระวังเรื่องกายแต่งกาย ให้ปกปิดมิดชิด เปิดได้เฉพาะใบหน้า และฝ่ามือ ไม่ใส่ชุดรัดรูป บาง ๆ หรือเอวต่ำ กระโปรงไม่มีรอยผ่า ถ้าเดินไม่สะดวกให้ใส่กระโปรงที่ไม่แคบ เช่น กระโปรงมีจีบ เป็นต้น
เปรียบเทียบพิธีแต่งงานของประเทศมาเลเซียกับประเทศไทย
๑. ประเทศไทยเชื่อเรื่องโชคชะตาและต้องหาฤกษ์ที่ดีเพื่อจัดงานแต่งานขึ้น ส่วนการแต่งงานของประเทศมาเลเซียนั้นไม่เชื่อในเรื่องโชคชะตา จึงไม่นิยมดูฤกษ์ยามก่อนแต่งงาน และมีข้อห้ามไม่ให้เชื่อเรื่องดวงดาวและโชคชะตาต่าง ๆ อีกด้วย ดังนั้น ชาวมุสลิมจึงไม่มีฤกษ์วันแต่งงาน นอกจากความสะดวกทั้งสองฝ่ายเท่านั้น
๓.
การแต่งกายส่วนของประเทศไทยนั้นแต่งกายชุดไทยชุดประจำชาติที่มีความงดงามและความสง่างามมากส่วนการแต่งกายประเทศมาเลเซียนั้นจะต้องระวังเรื่องกายแต่งกาย ให้ปกปิดมิดชิด เปิดได้เฉพาะใบหน้า และฝ่ามือ ไม่ใส่ชุดรัดรูป บาง ๆ หรือเอวต่ำ กระโปรงไม่มีรอยผ่า ถ้าเดินไม่สะดวกให้ใส่กระโปรงที่ไม่แคบ เช่น กระโปรงมีจีบ เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น